ไขข้อข้องใจ “สูงวัย” ทำไมยังต้องทาครีมบำรุง!

แต่ก่อนจะไปเจาะลึกขนาดนั้น เราไปทำความรู้จัก “ผิวของผู้สูงวัย” กันก่อนดีกว่า...

ขึ้นชื่อว่า “ผู้สูงวัย” ไม่ว่าจะด้วยอายุที่มากขึ้น ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเพศ (ที่เรียกว่าเอสโทรเจน) ที่จะค่อยๆลดลง ทำให้มีการสร้างไขมันที่ผิวลดลง แล้วยิ่งเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไปก็จะเกิดขบวนการไกลเคชัน (Glycation) หรือการเกิดพยาธิสภาพที่ผลให้คอลลาเจนใต้ผิวหนังเสื่อมลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นอีกมากมาย

ไม่ว่าจะกับชั้นผิวหนังอย่าง “ผิวหนังกำพร้า (Stratum corneum)” ที่ประกอบไปด้วยเซลล์ผิวหนัง เม็ดสี โปรตีน น้ำและไขมัน ซึ่งมีหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้นที่ผิวหนังและป้องกันน้ำการระเหยออกจากผิวหนัง ที่มีกรดไขมันอย่าง “เซราไมด์ (Ceramide) ”เป็นส่วนประกอบหลัก แต่เมื่ออายุมากขึ้นความสามารถต่างๆเหล่านั้นจะลดลง เช่น การสร้างแซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่าใช้เวลานานขึ้นถึง 2 เท่าจากเดิม รวมไปถึงความสามารถในการกักเก็บน้ำไว้ที่ผิวก็ลดลงตามไปด้วย แย่ไปกว่านั้นคือผิวหนังกำพร้าจะบางลงมากถึง 50% โดยเฉพาะผิวบริเวณที่ถูกแสงแดด เช่น ใบหน้า คอ แขนด้านนนอก และหลังมือ

รวมไปถึงผิวหนัง “ชั้นหนังแท้ (Dermis)” ที่จะมีเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินบางลงจนผิวเกิดรอยเหี่ยวย่น ต่อมเหงื่อและต่อมไขมันต่างๆก็จะทำงานลดลง ทำให้ผิวของผู้สูงวัยมีลักษณะแห้งขุย จึงเป็นที่มาของ “ภาวะผิวแห้ง” ในผู้สูงวัย

ภาวะผิวแห้งในผู้สูงวัย (Xerosis) หรือผิวที่มีลักษณะแห้งลอกเป็นขุยออกมาเป็นแผ่นๆ มีร่องแตก (คล้ายเกล็ดปลา) บางคนมีอาการคันร่วมด้วย ซึ่งจะบอกว่าพบได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิงพอๆกัน และพบอีกว่าสามารถเป็นได้ทั้งตัวโดยเฉพาะบริเวณแขนและขา

นอกจากปัจจัยภายในที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิตก็ถือเป็นปัจจัยภายนอกที่สำคัญที่จะทำให้เกิดผิวแห้งได้เช่นกัน อาทิ การอาบน้ำบ่อยๆ การอาบน้ำอุ่น การใช้สบู่ทั่วไปที่มีฤทธิ์เป็นด่าง และการใช้ครีมบำรุงทั่วไปที่ไม่เหมาะกับผิวผู้สูงวัย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนทำให้สูญเสียไขมันที่เป็นเกราะป้องกันผิวชั้นนอกและเป็นสาเหตุสำคัญมากๆ ที่ทำให้เกิดผิวแห้งและคันมากขึ้นในสูงวัย

ซึ่งทั้งหมดที่เราเล่ามาน่าจะพอตอบคำถามไปบ้างแล้วว่า...ทำไมผู้สูงวัยยังต้องทาครีมบำรุง?

ต้องบอกว่า การทาครีมบำรุงถือเป็นขั้นตอนดูแลตนเองที่สำคัญมากๆ ที่จะช่วยให้ผิวคุณห่างไกลจากภาวะผิวแห้งที่น่ากลัวดังกล่าว ครีมบำรุงผิวจัดว่าเป็น “ตัวช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ช่วยลดอาการคัน เพิ่มเกราะป้องกันให้ผิวหนัง (Skin Barrier) และลดการสูญเสียน้ำในผิวหนัง”

แต่ย้ำว่า “ควรจะเป็นครีมบำรุงหรือโลชั่นสูตรเพื่อผิวผู้สูงวัยโดยเฉพาะ!” เพราะนอกจากต้องมีเนื้อสัมผัสที่เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะแล้ว ต้องอ่อนโยนต่อผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังตลอดวัน ที่สำคัญต้องไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและพาราเบน (เพื่อลดโอกาสในการแพ้สารเหล่านั้นจนอาจทำให้ระคายเคืองผิวได้) ซึ่งจะบอกว่าทั้งหมดเป็นคุณสมบัติหลักใน Moisturizing Cream ของ AgongAma แถมยังสามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายในหลอดเดียวอีกด้วย

แนะนำเพิ่มเติมอีกหน่อยว่า “ควรทาทุกครั้งหลังอาบน้ำทันที เช้า-เย็น” หรือทาบ่อยๆในกรณีผิวแห้งมากๆ รวมไปถึงการดื่มน้ำให้เพียงพอก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังได้ดีมากๆ ค่ะ

#อากงอาม่า #AgongAma